ในการพัฒนาที่ดินเพื่อทำนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่มีสภาพภูมิประเทศสูงต่ำสลับกันไป จึงจำเป็นที่จะต้องตัดถมดินในพื้นที่โครงการให้เป็นที่ราบรายแปลงเพื่อให้สามารถสร้างอาคารโรงงานในแปลงที่ดินได้อย่างเหมาะสม ในการออกแบบการปรับระดับดิน (Land grading) ทำให้เกิดความลาดเอียง (Slope) บริเวณท้ายแปลงที่ดิน ซึ่งหากไม่ป้องกันการกัดเซาะผิวหน้าจะเกิดความเสียหายกับเชิงลาด

ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาที่ดิน ได้ใช้การปลูกหญ้านวลน้อยตามลาดเอียง (Slope) ในบริเวณที่อยู่ติดถนน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม ส่วนบริเวณด้ายท้ายแปลงที่ติดพื้นที่ Green Area ใช้วิธีการพ่นเมล็ดหญ้า (Hydro seeding) ซึ่งต่อมาพบว่าไม่ได้ผลเท่าที่ควร เนื่องจากปัญหาประการหนึ่งก็คือเปอร์เซ็นต์การงอกของเมล็ดหญ้าต่ำ เพราะขาดดินและน้ำที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ ทางบริษัทฯ จึงได้เสนอแนวทางหว่านเมล็ดหญ้าและใช้วัสดุชีวภาพ (Biomat) เช่น ใยมะพร้าว ฟางข้าว ขึงตาข่ายป้องกันนก (Anti-Bird Net) และยึดด้วยหมุดอีกทุกระยะ 1 เมตร พร้อมติดตั้งระบบรดน้ำโดยมีขั้นตอนดังนี้

เมล็ดหญ้ารูซี่สามารถเจริญงอกงามขึ้นเต็มพื้นที่ได้ในเวลา 7-10 วัน และทำหน้าที่ปกป้องการชะล้างผิวดินได้เป็นอย่างดี ด้วยระบบรากที่ยาวสามารถยึดเกาะดินได้เป็นอย่างดี วัสดุชีวภาพ (Biomat) ช่วยลดความรุนแรงจากลมและป้องกันความร้อนจากแสงแดด และการกินของฝูงนก และเก็บความชื้นได้เป็นอย่างดี ตาข่ายกันนก (Anti-Bird Net) จะช่วยคลุมฟางข้าวไม่ให้ฟุ้งกระจาย และเป็นที่ยึดเกาะให้กับหญ้าในช่วงเจริญเติบโต ซึ่งทางบริษัทฯ มีผลงานปลูกหญ้ารูซี่ป้องกันการกัดเซาะให้กับนิคมอุสาหกรรมในกลุ่มเหมราชฯ มามากกว่า 200,000 ตารางเมตร

Standard drawing for slope protection